Custom Search

Friday, October 10, 2008

อีติ๋มตายแน่ !! ??

เมื่อวานได้มีโอกาสไปดูหนังเรื่อง อีติ๋มตายแน่ ของ พี่ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค

แถมเมื่อวา่นก็มีเทศการอาหารอีกด้วย ( ที่ เซ็นทรัล แอร์พอร์ตพลาซ่า เชียงใหม่)

เลิกงา่นตอน 2 ทุ่มครึ่งพอดี เพื่อน ๆ ก็เลยชวนไปดูหนัง และ หาอะไรกินกัน

เนื่องจากไปไม่ทัน T_T ก็เลยได้รอบ 4 ทุ่มครึ่งซะงั้น แต่ . . . . ไม่เป็นไร ไปเที่ยวเทศการอาหารก่อน ก็ได้

ไปถึงก็เกือบๆ 3 ทุ่มพอดี คนเริ่มน้อย แถมมีศิลปินจาก RS มาร้องเพลงในงานอีกด้วย (ชื่อวงอะไรไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่ได้ติดตาม) คนไปถ่ายรูปกันใหญ่ หุหุ

แต่ ปัญหา่คือ "ไปเจอกิ๊กเก่าซะงั้น" -*- ว่าจะเข้าไปทักก็กระไรอยู่ รู้สึกว่าเขาจะมากับแฟนซะด้วยสิ ก็เลยไม่ได้เข้าไปทัก

หลังจากหาอะไรกินกันเสร็จ ก็ขึ้นเลยไปดูหนัง ......................

เนื้อเรื่องย่อ

ตึ๋ง นักมวยชกโชว์พัทยา อยากจะเป็นฮีโร่ขึ้นมาอย่างใครเขา
เห็นสะท้านฟ้าเท่ห์เลียนแบบเอา หวังเป็นเป้านำทางสู่ดารา
วันหนึ่งได้พบนางในฝัน อิเตมิ คนนั้นที่ใฝ่หา
จู่ๆ เธอก็เดินหลงเข้ามา อยากรู้ว่านี่จริงหรือฝันไป
ฝันหวานไม่นานก็จบ เมื่อเธอพบกับคนที่เด่นกว่า
คนๆ นั้นคือฮีโร่ที่ศรัทธา สะท้านฟ้าสะท้านใจทำไงดี
มะขิ่น คนดีอยู่ใกล้ๆ กลับมองข้ามหัวไปได้เสียนี่
กว่าจะรู้ว่าตนมีของดี อาจจะถึงวันที่สายเกินไป


ดูไปซักพักจนจบ อืม . . . . หนังก็สนุกดี ขำ เป็นระยะ ๆ ซึ้งเป็นระยะ ๆ ซึ้งแต่ก็ยิ้มได้ แต่รู้สึกไม่ค่อยสุดเท่าไหร่ แต่หนังก็ไม่ได้เลวร้ายนัก ยังจะดีกว่าหนังตลกบางเรื่องซะอีก ถ้าเต็ม 10 ผมคงให้ 6.8 คะแนน หุหุ

พี่โน๊สแสดงได้ดีครับ ยกนิ้วให้เลย ถึงบางครั้งจะดูต๊อง ๆ ไปบ้าง แต่ก็ทำให้คนดูอย่างผมรู้สึกคล้อยตามได้ ฉากที่เข้าไปไหว้ขอแฟนคืน (ขออนุญาติ Spoil) ฉากนี้โดนใจมาก พี่โน๊สแสดงได้่ดีจริงๆ





ส่วนฉากที่ต้องขึ้นชกมวยกับ สะท้านฟ้า รวมถึงตอนฝึกซ้อม ทำให้ผมนึกถึง การ์ตูนเรื่องนึง

นั่นก็คือ ถึงจะเห่ย แต่ก็สู้นะเฟ้ย . . .

งงอ่ะดิ ว่ามันคือกา่ร์ตูนเรื่องอะไร

ภาพประกอบด้านล่างครับ . . . . . .



คิดว่้าพี่โน๊สเค้าคงได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนเรื่องนี้แน่ๆ หุหุหุ

ก่อนชกมวย คนฝึกให้ไปฝึกตีแบตมินตันซะงั้น (ขออนุญาติ Spoil อีกรอบ T_T)


ถึงตอนจบจะดูไม่สวยงามมากนัก(ตา่มความคิดผมนะ- -*) แต่ ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูแล้วยิ้มได้ครับ เพราะถ้าเก่งเว่อร์เกินไปแบบ จา พนม ก็คงไม่ใช่พี่โน๊ส และคงไม่น่าดู หุหุ คิดมานานแล้วว่าอยากให้มีคนทำหนังแบบนี้มั่ง ชนิดที่ว่าเป็นแค่คนธรรมดา ไม่เก่งไม่เว่อร์ แต่ก็น่าติดตาม และสามารถเข้าถึงความเป็นตัวของตัวเองในตัวละครนั้นๆ ได้แบบธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องเก๊ก หรือ นั่งทำหน้าหล่อ


ชอบประโยคนี้จัง "ไปตามแล้วเสียใจ แต่ก็ยังดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ตาม" คำพูดคำนี้เป็นคำพูดที่เรียกความกล้าได้สุดยอดจริงๆ

Sunday, October 5, 2008

Bleach The DiamondDust Rebellion



เนื่องจากไม่กี่้อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้ Raw Anime เรื่องนึงที่ที่ผมชอบมากทีเดียว นั่นก็คือ BLEACH

แต่เป็น Bleach the movie ชื่อตอน The DiamondDust Rebellion Another Of Hyorinmaru

BLEACH หรือ ที่คอการ์ตูนในบ้านเรารู้จักกันในนามของ “เทพมรณะ” เป็นการ์ตูนบู๊แอ็คชั่นสุดมันที่ฮิตติดอันดับในเวลาอันรวดเร็วนับตั้งแต่ลง ประจำในนิตยสารรายสัปดาห์ “SHUKAN SHONEN JUMP” เมื่อปี 2001 และยังมกลุ่มแฟนขยายวงกว้างขึ้นเมื่อกลายมาเป็นการ์ตูนแอนิเมชันฉายทางทีวี ตั้งแต่ เดือนตุลาคม ปี 2004 ถึงตอนนี้ ก็ประมาณ 150 กว่าตอนแล้วล่ะ ในบ้านเราออกอากาศอยู่ทางช่อง TRUE SPARK

มาปีนี้ BLEACH กำลังจะก้าวสู่จอเงินอีกครั้งในช่วงเดือนธันวาคม หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วจากมูฟวี่ซีรีส์ครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2006 ในชื่อตอนว่า “MEMORIES OF NOBODY” สำหรับตอนใหม่ “ The Diamond Dust Rebellion” นี้ เขาการันตีมาเลยว่าเนื้อเรื่องเข้มข้น ตื่นเต้น เร้าใจยิ่งกว่าเดิมแน่ อิจิโกะในเวอร์ชันนี้ก็ดูแปลกตาไปจากเวอร์ชันทีวี ส่วนฮิสึกายะในตอนนี้ก็โดดเด่นเป็นพิเศษจนแทบจะเรียกว่าเด่นเกินหน้าเกินตา (แหงหล่ะ ตัวละครที่มีความนิยมอันดับ 1 ของเรื่องนี่หว่า) หลายๆ คนคงยังไม่ทราบ ว่า ที่ญี่ปุ่น "ฮิสึกายะ" คือตัวละครที่ได้รับความนิยมอันดัีบ 1 ครับ
ซึ่งอันดับก็ตามนี้

1.ฮิสึกายะ โทชิโร่ เห็นได้ชัดว่า สาวๆที่ญี่ปุ่น เดี๋ยวนี้ เขาก็รสนิยม "L" ไม่แพ้ เหล่าโอตาคุชาย เหมือนกัน
2.เบียคุยะ คุจิกิ เพราะแอบปันใจให้น้องเมียมากเกินไปละมั้่ง สาวๆยุ่นเขาเลยไม่ค่อยปลื้ม จึงได้แค่ที่ 2
3.อิจิโกะ คุโรซากิ นายหัวส้มคนนี้ไม่ต้องถาม เทียบ 2 คนด้านบนไม่ติด ถึงพลังจะเยอะกว่า ฝีมือจะเก่งกว่า แต่ใช่ว่าความนิยมจะเยอะกว่าหรอกนะ 555+

บนโปสเตอร์โปรยตัวหนังสือตัวเบ้อเร่อว่า “ลงทัณฑ์ ฮิสึกายะ โทชิโร่” ชวนให้สงสัยว่าฮิสึกายะไปทำอะไรผิดมา!?

ซึ่งตอนนี้ผมได้รับไฟล์ืที่เป็น Raw (ขอนุญาติ ไม่บอกที่มา เนื่องจากเป็นไฟล์ลิขสิทธิ์หรือไฟล์ฺติด LC นั่นเอง)




แต่จะ Spoil 555+

สำหรับคนที่ไม่ชอบ หรือ กลัวการ Spoil จนขึ้นสมอง กรุณาปิดบล๊อคผมไปเลยครับ ไม่ต้องอ่า่น

Get out !!!!






เรื่องย่อ หึหึ





หน่วยสิบซึ่งนำทีมโดย “ฮิสึกายะ โทชิโร่” มีหน้าที่ดูแล “ตราสัญลักษณ์” อันเป็นสมบัติลับของหัวหน้าใหญ่ของโซลโซไซ ตี้ แต่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นหน่วยสิบก็ถูกคนลึกลับบุกโจมตีและชิงเอา สัญลักษณ์ไป ตอนนั้นฮิสึกายะก็กำลังสู้อยู่กับหัวหน้ากลุ่มของพวกนั้นอยู่ แต่จู่ๆเขาก็ผละจากพวกรันงิคุไปซะเฉยๆ

หลายวันต่อมา อิจิโกะที่โลกมนุษย์ได้ข่าวการตายของฮิสึกายะเขารู้สึกคลางแคลงใจเกี่ยวกับ เรื่องนี้มากระหว่างนั้นก็มีคนพบฮิสึกายะบาดเจ็บและช่วยเหลือพาเจาส่งโรง พยาบาล คุโรซากิ ฮิสึกายะฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาลแต่ไม่ยอมปริปากพูดอะไรทั้งนั้น ทำไปทำมาอิจิโกะกับฮิสึกายะก็เกิดการต่อสู้กันขึ้นแต่ระหว่างนั้นเองฮอลโลว์ ลึกลับก็โผล่เข้ามาขัดจังหวะ แถมยังบอกว่ามารับฮิสึกายะ ฝ่ายฮิสึกายะเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

อิจิโกะถูกเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ได้ลูเคียกับเร็นจิมาช่วยเอาไว้ ซึ่งทั้งสองไหว้วานจากรันงิคุ รองหัวหน้าหน่วยสิบให้มาช่วยตามหาฮิสึกายะอย่างลับๆ จากคำพูดของฮิสึกายะที่พูดทิ้งท้ายไว้ว่า “คุซากะ” กับร่องรอยของฮอลโลว์ลึกลับพวกอิจิโกะได้แยกกันออกเป็น 2 ทางเพื่อตามสืบเรื่องนี้ เร็นจิได้รับความร่วมมือจาก “เคียวราคุ ชุนซุย” หัวหน้าหน่วยแปดสืบจนได้ความว่า ในอดีตเคยมียมทูตชื่อ “คุซากะ” แต่ก็ตายไปนานแล้ว ชุนซุยยังคงสืบสาวราวเรื่องต่อไปอีก แต่แล้วเขาก็ถูกใครบางคนเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส แถมในที่เกิดเหตุมีร่องรอยการโจมตีด้วยดาบเฮียวรินมารุอีกด้วย ในขณะเดียวกันทีมค้นหาฮิสึกายะที่ถูกส่งมายังโลกมนุษย์ก็กำลังถูกฮิสึกายะ โจมตีอยู่ ทำให้ความคลางแคลงในตัวฮิสึกายะยิ่งทวีขึ้น จนในที่สุดโซลโซไซ ตี้ก็มีคำสั่งลงโทษฮิสึกายะ

ฮิสึกายะทรยศต่อโซลโซไซ ตี้จริงรึนี่!? กลุ่มฮอลโลว์ลึกลับเป็นใคร!? แล้วความลับที่ซ่อนอยู่ในสัญลักษณ์ล่ะคืออะไรกัน!? การต่อสู้ที่เหล่ายมทูตถูกดึงเข้ามาพัวพันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!!




สำหรับภาคนี้ ตามความคิดผม คิดว่า สาวก Bleach ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว เพราะมันส์มาก (ดูรอบที่ 20 ละเนี่ย ยังมันส์โคตรๆ)

ผมคิดว่าคงจะมีลิขสิทธิ์ในไทย ปีหน้า แน่ๆ (ขืนมารอไทยซื้อลิขสิทธิ์เนี่ย อดใจไม่ใหวกกันพอดี)

ขนาด Bleach The movie :Memories of Nobody เนี่ย ที่ญี่ปุ่น ออกฉายตั้งแต่ปี 2006 กว่าไทยจะซื้อลิขสิทธิ์เข้ามา ให้ได้ซื้อเก็บกัน ก็ปาไปกลางปี 2007 (จะบ้าตาย -*-)



Friday, October 3, 2008

ภาษา Hi5 ภาษา msn ภาษาเพลง ภาษาควาย ภาษาไทย ภาษาคน..!!




ความ "เคยชิน"
ความ "สนุก" ผสมกับความ "มักง่าย" และ กระทำบ่อยๆ
บวกกับความที่เป็นคน "ไม่คิดมาก" แถม "เสพติดแฟชั่น" ได้ง่าย
และ ความที่คิดว่า "คงไม่เป็นไร"
หนำซ้ำก็ไม่มีใครตักเตือน !

บัดนี้ - วันนี้
คงไม่ใช่เพียงแค่ "โลกออนไลน์" เท่านั้น
แต่..ภาษาไทยจาก "สามัญสำนึก" ของ "คนไทย"
ส่ออาการเป็นง่อย ไร้สาระ ปัญญาอ่อน บ้าบอจนเข้าขั้นวิบัติ
"กัดกิน" มาถึงกระดูกของ "โลกในชีวิตจริงๆ" กันแล้ว !

เห็นได้ชัดกับเด็กๆมัธยมต้น - จนถึงปลาย
เขียนการบ้านส่งอาจารย์เป็น ภาษา Hi5 ไม่ก็ ภาษาที่ใช้ส่วนตัวใน msn
เริ่มจากลองเขียนเป็น "คำคำ" ไปก่อน เอาแค่คำที่ใช้บ่อยๆ
ไม่มีใครทราบว่าที่เขียน "เพราะชิน" หรือ อยากแค่ "แหย่อาจารย์" เล่น
เช่น.. - คำว่า เป็น เขียน เปน หรือ เปง
- คำว่า ครับ เขียน คร๊าฟ หรือ คร๊าบบ
- คำว่า คุณ เขียน คุง
- ฯลฯ

แต่เมื่อผ่านตาอาจารย์ โดยไม่ได้รับการท้วงติง
เด็กบางคนก็เริ่มสนุก เขียนมาครั้งใหม่เลยเอากันมาทั้งประโยคเลย
และ ระบาดลามแผ่ไปเป็นกลุ่มในชั้นเรียน
มองเป็นเรื่องโก้เก๋ ทันสมัย อยู่ในเทรนด์ที่สังคมเขาทำกัน
หากใครไม่เขียนอะไรเช่นนี้ - ก็เชย !

เด็กๆบางคนมันคิดกันอย่างนี้จริงๆ !!

เชิญอ่านตัวอย่างของความปัญญาอ่อน
ที่เด็กๆวัย 13 - 18 ปียุคนี้ กำลัง "อิน" โดยไม่ลืมหูลืมตา

ภาษาคน - เป็นอะไรก็ช่าง ขอให้เป็นคนดี
ภาษาปัญญาอ่อนคนที่ 1 - เปงอารายก้อจั้ง ขอให้เปงคงดี
ภาษาปัญญาอ่อนคนที่ 2 - เปนอารายยก้อชั่ง ขอห้ายเปนคงดี

ภาษาคน - คุณอย่าคอมเม้นท์เกินสามบรรทัดก็แล้วกัน
ภาษาปัญญาอ่อนคนที่ 1 - คุงหย่าเม้นเกิน ๓ บันทัดก้อแล้วกาน
ภาษาปัญญาอ่อนคนที่ 2 - คุงอย่าเม้นๆๆเกิน 3 บังทัดก้อแล้วกานน

ฯลฯ

นี่เป็นเพียง 2 ตัวอย่างเล็กๆ (ขอย้ำว่าเล็กๆ)
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นอยู่ ได้ลุกลามไปใหญ่โต
และเกินเลยไปกว่านี้มากแล้ว

หนำซ้ำเด็กบางส่วน
ยังเคยอ้างว่าเห็นผู้ใหญ่ที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือบางคน
ก็ใช้ภาษาปัญญาอ่อนอย่างนี้แหละเวลาเล่น Hi5 หรือคุยใน msn
ผู้ใหญ่ยังทำ แล้วเด็กจะไปเหลืออะไร ?!
ยิ่งกับเด็กที่ไร้วุฒิภาวะ คิดไม่ได้ มีชีวิตอยู่กับ Hi5 และ msn
มีโลกผูกติดอยู่กับอินเตอร์เน็ตทั้งวัน - ทั้งคืน

ผู้ใหญ่บางคนอาจจะบอกว่า..
ช่างมันเถอะ - มันก็อยู่แค่ในคอมพิวเตอร์ ใช้กันในคอมพิวเตอร์เท่านั้น
คงไม่มีใครเอาภาษาเหล่านี้มาใช้ในชีวิตจริงๆหรอก !!
นี่ไงครับ - น้อยไปสิ !
ไอ้ที่ไม่รู้ ไม่เห็น ก็ไม่รู้อีกเท่าไหร่ ?!
ที่เคยชิน สนุกกับความมักง่าย นำไปใช้ในทางผิดๆ !!

หากไม่ช่วยกันยับยั้งอย่างเป็นจริงเป็นจังกันบ้าง
เช่น..อย่างน้อยๆก็ควรเข้มงวดในห้องเรียน
หรือ คอยอบรมแนะนำให้เห็นโทษของการใช้ภาษาไทยผิดๆจนเป็นนิสัย
ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเรียน "ภาษาไทย" กันแล้ว !

ภาษาที่ถูกต้อง ก็เป็น "ศิลปะ" ที่สวยงามได้
โดยไม่ต้องปรับแต่งให้พิสดาร จนผิดการเขียน ผิดรูปความหมาย
และ ผิดต่อความรู้สึก !
แม้บางครั้ง - บางคนจะบอกว่าการเขียน "ผิดผิด" เช่นนี้
เป็นการเพิ่มอรรถรสในการสนทนาให้สนุกยิ่งขึ้นก็ตาม
ความเคยชินและการมองข้ามความผิดปกติกันจนเป็นนิสัย
กำลัง "ทำลาย" คูณค่าทางภาษาไปอย่างน่าเสียดาย - โดยไม่รู้ตัว

นึกไม่ออกเลย..
หากต่อๆไปภาษาที่อยู่ในเพลง
จะเต็มไปด้วย "ภาษาขยะ" ที่เข้าใจและยอมรับกันฉาบฉวยเพียง "บางกลุ่ม"
แต่กลับระบาดหนักจนเต็มบ้านเต็มเมือง
หลุดออกนอกกรอบจนยากเกินจะควบคุม

-----

จริงๆแล้วเรื่องเช่นนี้กล่าวหาว่าแต่เด็ก - ก็คงไม่ถูกทั้งหมด
แบบอย่างของความ "มักง่าย" บางส่วนก็มาจาก "ผู้ใหญ่" นั่นแหละ
ผู้ใหญ่ที่เป็นแบบอย่างของความ "ปัญญาอ่อน"
บางคนที่ทั้งอาการหนัก และ เป็นเอามาก
เข้าขั้นเป็นโรค "ป่วยทางภาษา" ก็มีไม่น้อย !

มองว่าเขียนโดยใช้คำแบบนี้แล้ว จะดู "อายุน้อย" ดูเป็นเด็ก ดูน่ารัก
ดูร่วมสมัย ร่วมวัย ร่วมสังคมกับคนในโลกออนไลน์ได้
คิดแต่จะ "ตาม ตาม ตาม" โดยไม่คำนึงถึงเรื่อง "ผิด - ถูก" เช่นนี้
เด็กที่ "รักดี" และกำลังไม่แน่ใจว่าเขียนอะไรเช่นนี้ - ดีหรือเปล่า ?
เมื่อเห็น "ผู้ใหญ่เฮงซวย" เป็นเสียเอง..

..หลังจากนี้ก็คงไม่ต้องเดา ?!

อะไรที่ "มากเกินไป"
เกินขอบเขต เกินยับยั้งชั่งใจ กลายเป็น "ความเคยชิน"
แม้ในใจจะรู้ว่า "ไม่ดี - ไม่ควร"
แต่กระแสสังคมก็มักจะโหมให้ "คนอ่อนแอ" คล้อยตามได้เสมอ
จนทำให้บางคนที่ว่า "ทำผิด" อยู่ทุกวัน - ยังไม่รู้ว่ามีสักวันที่ "ผิด" !!

ไม่ต่างกับมี "ภาษาคน" ให้ใช้
แต่กลับไปนิยมใช้ "ภาษาควาย"
เขียนควาย พูดควาย คนปกติส่วนใหญ่ก็ย่อมจะไม่เข้าใจ !!

-----

มีภาษาของเราเองให้ภาคภูมิใจ - ดีจะตาย
เป็น "ศิลปะชั้นเลิศ" อยู่คู่แผ่นดิน ที่ไม่ต้องเป็น "ศิลปินชั้นสูง" ก็เขียนได้
เพียงแค่ตั้งใจเขียนให้ "ถูกต้อง" ความงดงามและมีเสน่ห์ทางภาษาก็จะเกิด
และ ยังสะท้อนให้เห็นแก่นแท้ในหัวใจของ "คนไทย"
ว่าเรารัก "ภาษาไทย" มากแค่ไหน ?
















เครดิต คุณแจ๊ค รัสเซล แห่ง Pantip.com

Thursday, October 2, 2008

CERN ไม่ได้มีผลแค่ทำให้เกิดหลุมดำเท่านั้น แต่ยัง ??





เป็นที่ทราบกันดีว่า Cern ได้ทำการ ดำเนินการ เดินเครื่องเร่ง อนุภาค Large Hadron Collider เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา


แต่ . . . . การทดลงของ CERN ไม่ได้มีผลแค่ทำให้เกิดหลุมดำอย่างที่กล่าวๆกันเท่านั้น แต่ยัง...

มีข้อมูลจากข่าวกรองลับ ??

ออกมาบอกว่า

การทดลอง CERN อาจจะทำให้ประตูมิติเปิดขึ้นมาได้จริงๆ

มันจะจริงหรือ ??








หรืออีกนัยนึง










ตายซะเถอะแก